ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกของเรา คุณอาจพบเรื่องรอบตัวที่คุณยังไม่รู้ได้ที่นี่

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559

รู้หรือไม่?
10สถานที่ มรดกโลกโดยยูเนสโก้ ที่สวยที่สุดในโลก

1. นครวัด (Angkor) ประเทศกัมพูชา 
นครวัด เป็นศาสนสถานสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 เป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบัน และได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชาที่หลายคนทั่วโลกต่างรู้จักเป็นอย่างดี
นครวัดยังเป็น 1 ใน 10 อันดับ สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในอาเซียน อีกด้วย ซึ่งที่นี่อยู่ห่างจากเมืองเสียมราฐเพียง 20 นาทีเท่านั้น นักท่องเที่ยวจะแห่กันไปเพื่อชมสถาปัตยกรรมขอมโบราณนี้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เพราะเป็นช่วงที่มีอากาศดี อุณหภูมิจะอยู่ที่ 25-30 องศาเท่านั้น จะช่วงอื่นจะร้อนมากจนแทบตัวละลาย



2. อะโครโพลิส (Acropolis) ประเทศกรีซ
อะโครโพลิส คือ ป้อมปราการที่อยู่บนเทือกเขาสูง ซึ่งมีอยู่หลายจุดในประเทศกรีซ อะโครโพลิสที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ อะโครโพลิสแห่งเอเธนส์ ซึ่งมีวิหารสามแห่ง คือ วิหารพาร์เทนอน (Parthenon) วิหารอิเรกเทียม (Erechtheum) และมีโรงละครอีกสองแห่งคือ โรงละครเฮโรเดส อัตติกัส (Theatre of Atticus) และโรงละครไดอะไนซัส (Theatre of Dionysus)
ที่นี่ถือไ้ด้ว่า เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญของโลกเลยก็ว่าได้ เป็น อารยธรรมโบราณ ซึ่งสถานที่ที่ยังมีสิ่งก่อสร้างซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรือง และความรู้ความสามารถของคนในยุคก่อน ความท้าทายในการเที่ยวชมที่นี่เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวหลายคนถวิลหา เพราะจะต้องเลาะไปตามทางเดินที่อยู่ตรงแนวเนินเขาที่ทั้งสูง และชัน 




3. พุกาม (Bagan) ประเทศเมียนมาร์


พุกาม เป็นอาณาจักรแห่งแรกในประวัติศาสตร์เมียนมาร์ ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตมัณฑะเลย์ เป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 ที่ยังคงความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนาจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลเจดีย์ หรือ ดินแดนแห่งเจดีย์สี่พันองค์ เพราะในสมัยรุ่งเรืองเคยมีเจดีย์มากมายถึง 4,446 องค์ ปัจจุบันเหลือแค่เพียง 2,217 องค์เท่านั้น แต่ก็ยังถือว่าเป็นศาสนสถานที่อลังการอยู่ดี
เจดีย์แห่งแรกของพุกามคือ เจดีย์ชเวสิกอง สร้างโดยพระเจ้าอโนรธามังช่อ ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรพุกาม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในประเทศเมียนมาร์ นอกจากนี้พุกาม ยังเป็น 1 ใน 100 สถานที่สวยที่สุดในโลก อีกด้วย



4. ฮัมปิ (Hampi) ประเทศอินเดีย


ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อพูดถึงอินเดีย ใครๆ จะต้องนึกถึง ทัชมาฮาล ที่มีชื่อเสียงที่สุดมรดกโลก แต่นักท่องเที่ยวไม่กี่คนเท่านั้นที่จะรู้จัก ฮัมปิ เมืองที่เคยเป็นอาณาเขตของอาณาจักรวิจายานะกา หรือ วิชัยนคร และยังเป็นเมืองหลวงสุดท้ายของอาณาจักรฮินดู แน่นอนว่าที่นี่เต็มไปด้วยวัด และพระราชวังวังที่สร้างด้วยศิลปะแบบดราวิเดียน



5. น้ำตกอีกวาซู (Iguazu National Park) ประเทศบราซิล และอาร์เจนติ


น้ำตกอีกวาซู นี้ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อพรมแดนระหว่างประเทศบราซิลกับประเทศอาร์เจนติน่า เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ และขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย โดยใหญ่กว่าน้ำตกไนแอการาประมาณ 30 เท่า เป็นน้ำตกขนาดใหญ่เป็นแนวยาวกว่า 4 กิโลเมตร สูงกว่า 269 ฟุต ประกอบด้วยน้ำตกน้อยใหญ่อีก 275 แห่งด้วยกัน ซึ่ง บริเวณรอบๆ น้ำตกนั้นจะเกิดละอองน้ำอยู่ตลอดเวลาและมีเสียงดังไปไกลกว่า 24 กิโลเมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม อีกวาซู น้ำตกสุดยิ่งใหญ่อลังการ ในอาร์เจนตินา ใหญ่กว่าน้ำตกไนแองการา 30 เท่า! 


6. อุทยานแห่งชาติลอส กลาเซียเรส (Los Glaciares National Park) ประเทศอาร์เจนติ

อุทยานแห่งชาติลอส กลาเซียเรส เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองซานตาครูซ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศอาร์เจนตินา พื้นที่ส่วนใหญ่มักถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งกว่า 30% ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกยุคน้ำแข็งเลยทีเดียว กิจกรรมท่องเที่ยวหลักๆ ที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวนั้นคือ  การปีนเขา และเดินป่าภูเขาฟิทซ์รอย (Monte Fitz Roy) และภูเขาเซอโร ตอร์เร (Cerro Torre) ขาแอดเวนเจอร์แห่ไปพิชิตยอดเขากันมากมาย


7. มาชูปิกชู (Machu Picchu) ประเทศเปรู

มาชูปิกชู หรือนิยมเรียกอีกชื่อว่า เมืองสาบสูญแห่งอินคา ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงถึง 2,350 เมตรในประเทศเปรู เมืองนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาซึ่งแต่ละด้านเป็นผาชันแลดูน่าหวาดเสียว ที่นี่เป็นมรดกที่แสดงให้เห็นถึงอารยะธรรมของชนชาติอินคาที่สาบสูญไปนานแล้ว และไม่มีใครค้นพบจนกระทั่งในคริสต์ศตวรรษที่ 20 หลังจากจักรวรรดินี้ล่มสลายไปแล้วถึง 400 ปี ที่นี่จึงกลายเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคใหม่
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวในเปรูสามารถเดินทางจากเมืองคุซโกไปยังนครมาชู ปิกชูโดยทางรถไฟ และรถโดยสารประจำทางเป็นระยะทาง 96 กม.ได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น




8. มง-แซ็ง-มีแชล (Mont Saint Michel) ประเทศฝรั่งเศส

วิหารแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเลชายฝั่งตะวันตก บริเวณ แคว้นบัส-นอร์ม็องดี ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งสถานที่ตั้งของโบสถ์นับได้ว่าตั้งอยู่ในสถานที่แปลกประหลาดตื่นตาน่าดูที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ เพราะตั้งอยู่บนเกาะหินเล็กๆ กลางทะเล อีกทั้งยังมีตัวโบสถ์ที่สร้างแบบศิลปะแบบโกธิกที่เด่นมากคือ ตึกลาแมร์เวย หรือ ยอดมหัศจรรย์ ส่วนรอบๆ มีหมู่บ้านติดต่อกันไปตามแนวกำแพง ป้องกันข้าศึกที่จะมาจากทางบก และทางทะเล 






9. มหาพีระมิดแห่งกีซา (Pyramids of Giza) ประเทศอียิปต์

มหาพีระมิดแห่งกีซา เป็นพีระมิดในประเทศอียิปต์ที่มีความใหญ่โต และเก่าแก่ที่สุดในหมู่พีระมิดของอียิปต์ เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัย ฟาโรห์คูฟู (Khufu) แห่งราชวงศ์ที่ 4 ซึ่งปกครองอียิปต์โบราณ เมื่อประมาณ 2,600 ปีก่อนคริสตกาล หรือกว่า 4,600 ปีมาแล้ว
หมู่พีระมิดแห่งกิซ่า ประกอบด้วย พีระมิดคูฟู, พีระมิดคาเฟร และ พีระมิดเมนคูเร พีระมิดทั้งสามสร้างเรียงต่อกันเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกของกรุงไคโร ที่นี่จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากจะมาสัมผัสสักครั้งหนึ่งในชีวิต




10. อุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ  (Serengeti National Park) ประเทศแทนซาเนีย

อุทยานแห่งชาติเซเราเกติ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศแทนซาเนีย ถือเป็นหนึ่งในมรดกโลก เพราะชุกชุมไปด้วยสัตว์สารพัดชนิด
นอกจากนั้นยังเป็นท้องทุ่งแห่งสรรพสัตว์แอฟริกาตะวันออก ที่ราบที่กว้างใหญ่ไพศาลสุดลูกหูลูกตา อาณาเขตอีกปลายด้านหนึ่งมีอาณาเขตจรดติดกับเขต มาไซ มาราในเคนย่า และในที่ราบเซเรนเกตินี้มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอาศัยอยู่กว่า 3 ล้านตัวนับตั้งแต่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีกว่า 415 ประเภทจากหนูแคระตัวจิ๋วไปจนถึงช้างแอฟริกา ที่เป็นสัตว์บกใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นแหล่งตะลุยซาฟารีกันทีเดียว

ขอบคุณข้อมูลจากhttp://travel.truelife.com/detail/41444


ของไทยเราก็มีนะครับ









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น